อีกประเภทธุรกิจที่ถือว่ามีคนทำเป็นจำนวนมากต้องยกให้กับเหล่าบรรดาอพาร์ทเม้นท์ หอพัก และบ้านเช่า ยิ่งถ้าเป็นในเมืองมีอัตราการจ้างงานสูง ย่านที่อยู่อาศัยจะมีธุรกิจนี้อยู่เยอะ ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจคงหนีไม่พ้น “ภาษี” เพื่อจะได้ไม่ต้องมีปัญหาอื่นตามมาภายหลัง ลองมาดูว่าภาษีธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ หอพัก บ้านเช่า มีอะไรน่าสนใจบ้าง
ภาษีธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ หอพัก บ้านเช่ามีอะไรเกี่ยวข้องบ้าง
- ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
จัดเป็นภาษีหลักที่เหล่าบรรดาเจ้าของธุรกิจทั้งหลายยังไงก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งตรงนี้จะขออธิบายถึงเงื่อนไขการใช้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างเพื่อการใช้งานประโยชน์อื่น ๆ เช่น การใช้ในเชิงพาณิชย์ มีอัตราภาษีนับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ดังนี้
- 0-50 ล้านบาท อัตราภาษี 30%
- 50-200 ล้านบาท อัตราภาษี 40%
- 200-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 50%
- 1,000-5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 60%
- 5,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 70%
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ต่อมาเป็นสิ่งที่เหล่าบรรดาเจ้าของธุรกิจต้องจ่ายให้กับกรมสรรพากร ซึ่งปกติหากทำในนามของนิติบุคคล ก็จะมีการรับเป็นเงินเดือนซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มเงินได้พึงประเมินมาตรา 40 (1) แต่ถ้าทำในนามบุคคลธรรมดาก็จะมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้
- กรณีรับเงินค่าเช่า ถือเป็นเงินได้พึงประเมินมาตรา 40 (5)
- หากมีการเก็บเงินค่าส่วนกลาง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าเฟอร์นิเจอร์ และรายได้อื่น ๆ จากผู้เช่าจะถือเป็นเงินได้พึงประเมินมาตรา 40 (8) ตรงนี้หากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท / ปี ก็ต้องทำการจดภาษี VAT ซึ่งจะมีเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย (ปกติถ้าเป็นค่าเช่าอย่างเดียวถือเป็นธุรกิจได้รับการยกเว้น VAT)
- ภาษีป้าย
ทุกอพาร์ทเม้นท์ หอพัก ส่วนใหญ่ต้องมีการติดป้ายประกาศเพื่อบอกให้กับผู้ที่สนใจรู้จัก อีกทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือในการเข้าพักอาศัย เมื่อมีป้ายเชิงพาณิชย์ก็ต้องเสียภาษีป้าย ซึ่งอัตราภาษีจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับลักษณะของตัวป้ายว่าเป็นป้ายภาษาไทยล้วน, ไทยผสมต่างชาติและมีเครื่องหมาย ภาพอื่น ๆ และป้ายไม่มีภาษาไทย หรือมีบางส่วน หรือทั้งหมดอยู่ต่ำกว่าภาษาต่างชาติ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ถือเป็นข้อมูลภาษีเบื้องต้นสำหรับคนทำธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ หอพัก บ้านเช่า ต้องรู้เอาไว้ ยังอาจมีเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาได้ขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจ เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล, อากรแสตมป์ ฯลฯ แต่เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อเข้าใจพื้นฐานภาษีชัดเจนก็จะช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างเหมาะสม ลดข้อผิดพลาดที่อาจสร้างผลกระทบต่อตนเองและธุรกิจในอนาคตได้มากขึ้นกว่าเดิม