หากบริษัทต้องการแจกของขวัญปีใหม่ให้พนักงาน หรือตัวแทนจำหน่าย จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้อย่างไร และมีภาษีอะไรมาเกี่ยวข้องบ้าง ?

ของขวัญปีใหม่

ใกล้เทศกาลปีใหม่ เทศกาลแห่งความสุขที่ทุกคนรอคอย หลาย ๆ บริษัทจึงมีการจัดงานเลี้ยงและมอบของขวัญปีใหม่ ( Happy New Year’s Gift ) แก่พนักงาน ลูกค้า หรือตัวแทนจำหน่าย แน่นอนว่าเมื่อผู้ประกอบการจ่ายเงินออกไป ย่อมต้องอยากได้รายจ่ายตรงส่วนนี้มาเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท คำถามคือ จะนำค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้มาใช้อย่างถูกต้องในทางภาษีได้อย่างไร ? และภาษีอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานเลี้ยงและให้ของขวัญในเทศกาลปีใหม่ เพื่อตอบข้อสงสัยดังกล่าว วันนี้เราจึงมาสรุปประเด็นให้เข้าใจแบบง่าย ๆ กัน

ผู้ประกอบการจัดงานเลี้ยงหรือให้ของขวัญพนักงาน

  1. ในกรณีที่ผู้ประกอบการต้องการจัดงานเลี้ยงปีใหม่ให้พนักงาน

ส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ

  • ภาษีนิติบุคคล

     ผู้ประกอบการจะสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในทางภาษีได้ก็ต่อเมื่อ มีการระบุอย่างชัดเจนในระเบียบสวัสดิการของพนักงาน และจะต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่จ่ายเพื่อจัดงานเลี้ยงให้แก่ส่วนรวม ไม่ใช่การจัดให้เฉพาะเจาะจงกับคนใดคนหนึ่ง

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีซื้อ)

ภาษีซื้อของที่นำมาจัดในงานเลี้ยง เช่น อาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถใช้เป็นภาษีซื้อได้ ก็ต่อเมื่อเป็นการซื้อมาจัดเลี้ยงให้ทั้งบริษัท ไม่ใช้การจัดเลี้ยงเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง และต้องมีการระบุให้ชัดเจนว่าเป็นการซื้ออาหารเหล่านั้นมาเป็นสวัสดิการของพนักงาน จึงสามารถนำค่าใช้จ่ายจำนวนนั้นมาคิดเป็นภาษีซื้อได้

ส่วนที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน

  • ภาษีบุคคลธรรมดา

หากในงานเลี้ยงผู้ประกอบการมีการแจกเงินรางวัล เงินตรงส่วนนี้จะถือว่าเป็นการได้รับฟรี ตามขนบธรรมเนียมประเพณีของบริษัท จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำไปร่วมคำนวณกับเงินเดือนของพนักงาน

  1. ในกรณีที่จับสลากเลี้ยงปีใหม่

ส่วนที่เกี่ยวกับผู้ประกอบการ

  • ภาษีนิติบุคคล

ของขวัญที่นำมาจับฉลาก ผู้ประกอบการจะสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในทางภาษีได้ก็ต่อเมื่อ ระบุอย่างชัดเจนในระเบียบสวัสดิการของพนักงาน และจะต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่จ่ายเพื่อจัดงานเลี้ยงให้แก่ส่วนรวม ไม่ใช่การจัดให้เฉพาะเจาะจงกับคนใดคนหนึ่ง

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีซื้อ

ปกติแล้วการซื้อของมาจับสลากปีใหม่ เป็นภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโดยตรง ดังนั้นจึงไม่สารถนำภาษีซื้อมาคิดได้ แต่หากมีการระบุลงไปในระเบียบอย่างชัดเจนว่าเป็นสวัสดิการของพนักงานและจะต้องให้ทุกคน โดยไม่เลือกปฎิบัติกับคนใดคนหนึ่ง จึงจะสามารถนำภาษีซื้อมาคำนวณหักกับภาษีขายได้

ภาษีขาย

ภาษีขาย การมอบสินค้าของกิจการเป็นของขวัญจับสลาก ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากถือเป็นการขายสินค้าตามมาตรา 77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบสินค้า โดยไม่จำเป็นต้องจัดทำใบกำกับภาษี

*กรณีบริษัทออกค่าภาษีมูลค่าเพิ่มให้ จะถือเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้ามของบริษัท

ส่วนที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน

  • ภาษีบุคคลธรรมดา

กรณีที่จับสลากหรือชิงโชค แล้วได้รับรางวัลในงานเลี้ยงปีใหม่ ของขวัญชิ้นนั้นจะถือเป็นเงินได้ของพนักงานคนนั้น ต้องตีราคาของขวัญที่ได้รับเป็นราคาตลาดแล้วนำมาคำนวณภาษีบุคคลธรรมดาร่วมกับเงินได้ต่าง ๆ ของพนักงาน

  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

เมื่อผู้ประกอบการมอบของขวัญให้พนักงาน บริษัทจะต้องหัก ภาษีหัก ณ ที่จ่ายแก่พนักงานด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วบริษัทก็จะเป็นคนออกค่าภาษีตรงนี้ให้กับพนักงาน ข้อแนะนำ : เมื่อบริษัทออกค่าภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้พนักงาน หากบริษัทต้องการนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวมาเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทจะต้องมีการทำสัญญาว่าจะออกค่าภาษีให้ หากไม่มีสัญญาว่าจะออกค่าภาษี จะถือเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้าม

ข้อแนะนำการประหยัดภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการสามารถทำได้คือ

***ผู้ประกอบการควรเลือกให้รางวัลจับฉลากปีใหม่ เป็นเงินหรือบัตรกำนัลกับพนักงานแทนของขวัญ เนื่องจากเงินไม่ถือเป็นสินค้า จึงไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

ผู้ประกอบการให้ของขวัญแก่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำไปส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลปีใหม่

ภาษีที่เกี่ยวข้อง คือ

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

หากผู้ประกอบการแจกสินค้าเพื่อส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ให้แก่ผู้แทนจำหน่าย หรือ ตัวแทนจำหน่ายรายย่อย ที่สามารถนำสินค้าแจกนี้ไปขายต่อได้ ให้กิจการมีหน้าที่ต้อง หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3

การแจกของขวัญหรือของชำร่วยให้แก่ลูกค้าในเทศกาลปีใหม่

นอกจากปีใหม่จะมีการสังสรรค์จับฉลากกันภายในองค์กรแล้ว ในทุก ๆ ปี ผู้ประกอบการหลายท่านมักจะมีการนำกระเช้าของขวัญหรือของชำร่วยไปสวัสดีปีใหม่แก่ลูกค้าผู้ให้การสนับสนุนกันมาตลอดทั้งปี ของขวัญที่นำไปมอบให้กับลูกค้าดังกล่าว สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางภาษีได้ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ดังนี้

ส่วนที่เกี่ยวกับผู้ประกอบการ

  1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีซื้อ ของขวัญหรือของชำร่วยที่กิจการมอบให้ลูกค้า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ จัดเป็นภาษีซื้อต้องห้ามเพราะทางกฎหมายถือเป็นค่ารับรอง จึงไม่สามารถนำมาหักออกจากภาษีขายได้ แต่สามารถนำไปหักเป็นรายจ่ายค่ารับรองได้

ภาษีขาย ในกรณีที่กิจการนำของขวัญ หรือของชำร่วยไปมอบให้ลูกค้าเพื่อสวัสดีปีใหม่ ตามขนบธรรมเนียมประเพณี ถือเป็นการขายในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องนำมูลค่าของขวัญดังกล่าวไปเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมออกใบกำกับภาษี ยกเว้นแต่ว่าของขวัญหรือของชำร่วยเหล่านี้ เข้าเงื่อนไขเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้

  • ต้องเป็นของขวัญหรือของชำร่วยที่เป็นสินค้าจำพวกปฏิทิน สมุดบันทึกประจำวัน (Diary) หรือสินค้าที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน โดยมีชื่อของผู้ประกอบการ ชื่อการค้าหรือเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบการปรากฏอยู่
  • มูลค่าของขวัญหรือของชำร่วยที่มอบให้ลูกค้า จะต้องมีราคาไม่สูงเกินสมควร อีกทั้งยังเป็นการประหยัดภาษีอีกด้วย
  1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล

          ของขวัญหรือของชำร่วยที่ให้แก่ลูกค้าถือเป็นค่ารับรอง ผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายไปหักเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด สำหรับภาษีซื้อต้องห้ามที่มิให้ขอคืนภาษี สามารถนำไปหักเป็นรายจ่ายค่ารับรองได้โดยต้องเป็นค่ารับรองตามหลักเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนด ดังนี้

เป็นการให้ของขวัญ หรือรายจ่ายตามธรรมเนียมประเพณีทางธุรกิจทั่วไป หรือเทศกาลสำคัญต่างๆ

  • เป็นการจ่ายรับรองให้กับบุคคลภายนอก
  • ได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจ และมีหลักฐานการจ่ายอย่างถูกต้อง
  • ค่าสิ่งของที่กิจการนำค่าใช้จ่ายไปหักเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ถ้าเป็นสิ่งของราคาต้องไม่เกิน 2,000 บาท ต่อชิ้น (รวม VAT) และเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน3% ของยอดรายได้ ยอดขาย หรือทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว ขึ้นอยู่ที่ว่ายอดไหนมากที่สุด และต้องไม่เกิน 10 ล้านบาท

ส่วนที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า

  1. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

ของขวัญหรือของชำร่วยที่ผู้ประกอบการได้แจกให้แก่ลูกค้านั้นถือว่าเป็นการขายสินค้า ผู้ประกอบการไม่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แต่อย่างใด

สรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ คือ